Selecting Material Component of Pump for Corrosion Resistance

การเลือกวัสดุของปั๊มที่เหมาะสมกับของใหลที่กัดกร่อน

ปั๊มชนิดต่างๆ ออกแบบเพื่อการใช้งานที่เหมาะสมต่างๆกัน ชิ้นส่วนที่ใช้ก็ต่างต่างกัน ปัญหาที่เกิดจะไม่เหมือนกัน

เนื่องจากปั๊มเป็นเครื่องหมุน (Rotating machinery) จึงมีการเสียดสี (Erosion, Abrasion) การสึกหรอของวัสดุที่เสียดสีกันจึงเกิดขึ้นตลอดเวลา และมีปัญหาอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับของใหล (Fluid) ซึ่งปัญหาทั่วๆไปของปั๊มจะมี เช่น

  • การสึกหรอปรกติ
  • การเสียดสี กับสารแขวนลอยในของใหล
  • การกัดกร่อนจากสารเคมี ที่ปนมากับของใหล
รูปแสดงการเกิดการกัดกร่อนของชิ้น (Component, part) ส่วนของปั๊ม

การใช้งานของของเหลวกัดกร่อนในอุตสาหกรรมต่างๆ

  • อุตสาหกรรมเคมี ใช้ในกระบวนการผลิตสารเคมี ตัวทำละลาย ปุ๋ย พลาสติก สี เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมแปรรูปโลหะและชุบโลหะ ใช้ในกระบวนการขจัดออกไซด์พื้นผิว ทำความสะอาดโลหะ การกำจัดสนิม และชุบโลหะ
  • อุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ใช้ในกระบวนการแยกน้ำมันกลั่น การทำให้ปราศจากกำมะถัน และทำความสะอาดอุปกรณ์
  • การบำบัดน้ำเสีย ใช้เพื่อปรับค่า pH กำจัดไอออนโลหะ และกำจัดสารมลพิษ
  • อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ใช้ในกระบวนการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ และกำจัดของเสีย
  • การปกป้องสิ่งแวดล้อมและกำจัดของเสีย ใช้ในการบำบัดน้ำเสีย กำจัดก๊าซเสีย และกำจัดของเสียอันตราย

การกัดกร่อน (Corrosion) เป็นการเกิดปฏิกริยาเคมีระหว่างสารที่ใหลเข้าและออกจากตัวปั๊มและวัสดุที่สัมผัสกับของใหลภายในตัวปั๊ม ทำให้เกิดการสูญเสียวัสดุ จะเกิดการสูญเสียสมรรถนะและค่าซ่อมจะสูง บางกรณีจะเกิดการเสียหายหนัก ต้องหยุดเครื่องกระทันหัน เพราะอุปกรณ์ใช้การไม่ได้

การเกิดการกัดกร่อนเป็นการทำปฏิกริยาของสารที่ทำวัสดุกับของไหลใบบรรยากาศที่มีออกซิเจน จนเกิดออกไซด์ของเหล็ก (Rust) หลุดออกมาจากผิวเดิม จนมีพื้นที่ว่างทำให้เกิดปฏิกริยาต่อไป เหล็กสแตนเลสและเหล็กผสม จะทนการกัดกร่อนได้ดีกว่า เพราะจะเกิดผิวของโครมิค และออกไซด์ชนิดอื่นๆเกาะที่ผิววัสดุอย่างแน่นหนา ทำให้การเกิดปฏิริยาเคมีเข้าถึงเนื้อวัสดุได้ยากกว่า

ประสบการณ์จากการกัดกร่อนชนิดต่างๆ

การกัดกร่อนอย่างสม่ำเสมอ (Consistent) และการเสื่อมสภาพ (Deteriorate) ของชิ้นส่วนที่ใช้ทำปั๊ม สามารถที่จะทำนายอายุการใช้งานของปั๊ม (Maintenance period) จากการทดลอง (Test result) หรือจากตาราง (Charts) ค่าการกัดกร่อนมาตรฐานที่มีผู้ทดลองและพิมพ์แจกจ่ายใว้แล้ว

    การกัดกร่อนชนิดนึ้สามารถทำให้น้อยลงโดยการเคลือบ (Coating, Lining) ชิ้นส่วนด้วยสารที่ทนต่อการกัดกร่อน (ทำจากโลหะหรือไม่ใช่โลหะ – Metal and Non metal) หรือการเลือกใช้วัสดุที่ทนการกัดกร่อน เช่นเหล็กกล้าสแตนเลส (Stainless steel) และวัสดุประเภทซุปเปอร์อัลลอยด์ (Superalloy or Nikel based alloy – นิคึลอัลลอยด์)

ความต้านทานของโลหะที่สัมผัสต่อการกัดกร่อน และความสามารถของเทอร์โมพลาสติกและอีลาสโตเมอร์ในการต้านทานความเสียหายทางเคมี อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ การมีสิ่งเจือปนหรือก๊าซที่ปะปนอยู่ ดังนั้นในการเลือกปั๊มสำหรับการใช้งานใดๆ จึงจำเป็นต้องเข้าใจว่าชิ้นส่วนทั้งหมดที่สัมผัสกับของไหลทำปฏิกิริยาอย่างไรกับของเหลวที่ใช้ ซึ่งเรียกว่าความเข้ากันได้ทางเคมี (Chemical compatibility chart)

คำแนะนำวัสดุที่เหมาะสมกับสารเคมี
ชาร์ทแสดงความต้านของวัสดุต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี

ความเข้ากันได้ทางเคมี (Chemical compatibility chart)

เป็นชาร์ทแสดงความเหมาะสมของวัสดุที่เลือกใช้งานกับสารเคมีชนิดนั้น

การเลือกปั๊มที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในกระบวนการผลิตสารเคมีจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย รวมถึงคุณสมบัติของสารเคมี ประเภทของปั๊ม และวัสดุที่ใช้ การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านปั๊มจะช่วยให้มั่นใจว่าคุณได้รับปั๊มที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

ประเภทของการกัดกร่อน

  1. การกัดกร่อนแบบสม่ำเสมอ (Steady corrosion) เป็นการกัดกร่อนที่เกิดขึ้นทั่วพื้นผิวโลหะอย่างสม่ำเสมอ สามารถคาดการณ์อายุการใช้งานของชิ้นส่วนได้
  2. การกัดกร่อนแบบกัลวานิก (Galvanic corrosion) เกิดขึ้นเมื่อมีโลหะต่างชนิดกันสัมผัสกับสารละลายอิเล็กโทรไลต์ เช่น กรดหรือด่าง ทำให้เกิดการถ่ายโอนประจุและวัสดุระหว่างพื้นผิวโลหะ
  3. การกัดกร่อนแบบเป็นหลุม (Pitting corrosion) เกิดขึ้นเฉพาะจุด มักเกิดเมื่อชั้นป้องกัน (Surface protection film) ถูกทำลาย
ตารางแสดงการเกิดการกัดกร่อนแบบเป็นหลุม
  1. การแตกร้าวจากการกัดกร่อนและความเครียด (Stress corrosion) เกิดจากความเครียดทางกลและการกัดกร่อนร่วมกัน ทำให้เกิดรอยแตก
  2. การกัดกร่อนระหว่างเกรน (Intergranular corrosion) พบมากในโลหะหล่อ เช่น สแตนเลส
  3. การกัดกร่อนในรอยแคบ (Civic corrosion) เกิดจากของเหลวที่ค้างอยู่ในช่องว่าง เช่น รอบๆ หน้าจาน
  4. การกัดกร่อนที่เกิดจากจุลินทรีย์ (Microbiological corrosion, MIC) พบในปั๊มที่สูบน้ำที่ไม่ได้ผ่านการบำบัด

ความสัมพันธ์ระหว่างคุณสมบัติทางเคมีของของเหลวกัดกร่อนกับประเภทของปั๊มที่เหมาะสม

คุณสมบัติทางเคมีตัวอย่างของเหลวกัดกร่อนประเภทปั๊มที่เหมาะสม
ค่า pHกรดซัลฟิวริก กรดไฮโดรคลอริกปั๊มหอยโข่ง (สแตนเลส) ปั๊มเคมี (PP, PVDF)
อุณหภูมิสูงกรดอุณหภูมิสูง สารละลายด่างปั๊มแม่เหล็ก (PP, PVDF) ปั๊มไดอะแฟรม (PTFE, PVDF)
การกัดกร่อนสูงโซเดียมไฮดรอกไซด์ กรดไฮโดรฟลูออริกปั๊มแนวตั้ง (โลหะผสมพิเศษ) ปั๊มไดอะแฟรม (PP, PVDF)
ความสามารถในการละลายตัวทำละลายอินทรีย์ เช่น อะซิโตน เมทานอลปั๊มแม่เหล็ก (สแตนเลส) ปั๊มไร้ซีล (PTFE, ETFE)
มีอนุภาคแข็งสารละลายขัดถู น้ำเสียที่มีตะกอนปั๊มสารละลาย (เหล็กหล่อ, สแตนเลส) ปั๊มเพอริสแตลติก

กราฟแสดงการลดลงของสมรรถนะ (Performance) ของปั๊มเนื่องจากการกัดกร่อนของชิ้นส่วน

คุณสมบัติความทนทานต่อสารเคมีของวัสดุต่างๆ

การเลือกปั๊มที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการผลิตสารเคมีเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เนื่องจากการจัดการสารเคมีมีความท้าทายเฉพาะตัว ซึ่งรวมถึงความต้องการในการทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ป้องกันการปนเปื้อน และทำให้การดำเนินงานปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การเลือกปั๊มที่เหมาะสมสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของกระบวนการ ลดต้นทุนการบำรุงรักษา และปรับปรุงความปลอดภัย

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกปั๊ม ได้แก่

  • การกัดกร่อน – สารเคมีหลายชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อนและอาจทำให้วัสดุของปั๊มเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานไปนานๆ สิ่งนี้อาจนำไปสู่การรั่วไหล ความล้มเหลวทางกล และอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
  • ความหนืดและการเสียดสี – สารเคมีมีความหนืดและความสามารถในการขัดถูที่แตกต่างกัน สารเคมีที่มีความหนืดสูงหรือมีอนุภาคแข็งต้องใช้ปั๊มที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อลดการสึกหรอ
  • อุณหภูมิสุดขั้ว – สารเคมีบางชนิดถูกประมวลผลที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก ปั๊มจะต้องสามารถทำงานได้ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้โดยไม่เกิดความเสียหาย
  • ความปลอดภัย – การรั่วไหลของสารเคมีอาจเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสารระเหยหรือตัวทำละลายที่เป็นพิษ ดังนั้น การออกแบบปั๊มที่ปลอดภัยและป้องกันการรั่วซึมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
  • ความเข้ากันได้กับสารเคมี – สารเคมีแต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น ค่า pH ความไวต่อปฏิกิริยา และความเป็นพิษ การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็น

การเลือกประเภทของปั๊มที่เหมาะสม

แฟคเตอร์ต่างๆเกี่ยวกับการเลือกใช้ปั๊ม

  1. เข้าใจคุณสมบัติของสารเคมี เริ่มต้นด้วยการประเมินสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิต โดยคำนึงถึงความสามารถในการกัดกร่อน ความหนืด
    อุณหภูมิ และคุณสมบัติอื่นๆ เพื่อช่วยในการเลือกประเภทและวัสดุของปั๊ม
  2. เลือกประเภทปั๊มที่เหมาะสม
    • ปั๊มหอยโข่ง (Centrifugal Pumps) – เหมาะสำหรับของเหลวที่มีความหนืดต่ำและต้องการอัตราการไหลสูงต่อเนื่อง แต่ไม่เหมาะสำหรับสารเคมีที่มีความหนืดสูงหรือมีอนุภาคแข็ง
    • ปั๊มแบบแทนที่เชิงบวก (Positive Displacement Pumps) – เหมาะสำหรับสารเคมีที่มีความหนืดสูงหรือไวต่อแรงเฉือน เนื่องจากสามารถรักษาอัตราการไหลได้คงที่
    • ปั๊มไดอะแฟรม (Diaphragm Pumps) – เหมาะสำหรับสารเคมีที่เป็นอันตรายและระเหยง่าย ให้การทำงานที่ปราศจากการรั่วไหลและสามารถรองรับของเหลวที่มีความหนืดต่างกัน
    • ปั๊มจุ่มอุณหภูมิสูง (High-Temperature Submersible Pumps) – ออกแบบมาเพื่อรองรับของเหลวที่มีฤทธิ์กัดกร่อน
    • ปั๊มพลาสติกเทอร์โม (Thermoplastic Pumps) – เหมาะสำหรับสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง โดยไม่เกิดการกัดกร่อนแบบโลหะ
    • ปั๊มขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็ก (Magnetic Drive Pumps) – ไม่มีซีลกลไก จึงช่วยลดโอกาสการรั่วไหล
  3. เลือกวัสดุที่เหมาะสม   
    วัสดุที่ทำชิ้นส่วนของปั๊มที่สัมผัสกับของไหล (Wetted part) ที่ต้องทนการกัดกร่อนวัสดุ เช่น    
    1. โลหะ ที่ทำโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรง เช่นเหล็กหล่อ (Cast iron) เหล็กกล้า (Stainless steel) เหล็กผสมนิคึล (Nicle alloy หรือ Supper alloy เช่น Duplex เป็นต้น)   
    2. เทอร์โมพลาสติก เช่น PTFE, PVDF, PP เป็นต้น สำหรับทำโครงสร้าง เช่น เคสซิ้ง (Structure, Casing), ซีล, แบริ้ง, สารเคลือบปั๊ม เป็นต้น
    3. เซรามิค เช่นอลูมินา, ซิลิคอนคาร์ไบน์ สำหรับทำหน้าซีล, แบริ้ง เป็นต้น
    4. อีลาสโตเมอร์ เช่น Buna N, Vitonเป็นต้น สำหรับชิ้นส่วนที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่นชาฟท์สลีฟ,ซีล, โอริง

ตารางแสดงวัสดุเคลือบของ พีซีปั๊ม

4. พิจารณาการเคลือบ (Coating, Lined) และซับใน (Sleeve) ปั๊ม

เพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อาจใช้สารเคลือบพิเศษ เช่น เซรามิก เพื่อป้องกันการสึกหรอของปั๊มเมื่อใช้งานกับสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน

5. เลือกการกำหนดค่าที่เหมาะสม

ปั๊มสำหรับกระบวนการผลิตสารเคมีมักมีระบบซีลสองชั้น ระบบวงปิด หรือขับเคลื่อนด้วยแม่เหล็ก เพื่อป้องกันการรั่วไหลและเพิ่มความปลอดภัย

    วัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนช่วยให้ปั๊มมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ลดความเสียหายจากการกัดกร่อน และช่วยรักษาประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ลดต้นทุนการบำรุงรักษา และลดเวลาหยุดทำงานที่ไม่ได้วางแผนไว้ 

    การสัมผัสของสารกัดกร่อนวัสดุจะทำให้เกิดความเสียหายทางเคมี เช่นอ่อนตัว หรือบวม ซึ่งขึ้นกับอุณหภูมิที่ใช้งาน ของไหลมีการขีดข่วน สารแขวนลอย และการมีแก๊สปนเข้ามา ซึ่งจะเกิดอันตรายต่อวัสดุ การเลือกใช้วัสดุจึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับของใหลที่ชิ้นส่วนที่สัมผัส

 วัสดุต่างๆ ที่ใช้ในปั๊ม

  • เหล็กหล่อ ราคาถูก ใช้กันทั่วไปในการผลิตตัวเรือนปั๊ม ทนต่อการกัดกร่อนในสารละลายที่มีค่า pH 6-10
  • สแตนเลส มีโครเมียมซึ่งช่วยสร้างชั้นออกไซด์ที่ป้องกันการกัดกร่อน สามารถซ่อมแซมตัวเองได้หากได้รับความเสียหาย
  • โลหะซุปเปอร์อัลลอย เหมาะสำหรับการทำงานกับสารเคมีกัดกร่อนสูงที่อุณหภูมิสูง เช่น โลหะผสมนิกเกิล (HASTELOY®, INCONEL®, MONEL®)
  • เทอร์โมพลาสติก ทนต่อสารเคมีได้ดี เช่น PTFE (Teflon®) ใช้ในปะเก็น ซีล และไดอะแฟรม
  • การเคลือบป้องกัน ใช้เคลือบชิ้นส่วนโลหะเพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น อะลูมิเนียม
  • ออกไซด์ โครเมียมออกไซด์ และทังสเตนคาร์ไบด์

    แสดงคุณสมบัติที่ต่างกันของเหล็กกล้า สแตนเลส และเหล็กผสม

ตารางแสดงวัสดุเคลือบ (Coating) โลหะที่ใช้ในปั๊ม

วัสดุหลักการใช้งานและคุณสมบัติ
โคบอลต์-โครม-ทังสเตน (Stellite/ Wallex)ทนต่อการกัดกร่อนและการสึกหรอได้ดี
โลหะผสมนิกเกิล (Colmoney)ทนต่อการกัดกร่อนและความร้อนสูง
โลหะผสมนิกเกิล-โครเมียม-โมลิบดีนัม (Hastelloy®)ทนกรดได้ดีแม้ที่อุณหภูมิสูง
อะลูมิเนียมออกไซด์/ไททาเนียมไดออกไซด์ทนต่อสารเคมีและการสึกหรอ
โครเมียมออกไซด์ป้องกันการสึกหรอและการกัดกร่อน
ทังสเตนคาร์ไบด์ทนต่อการสึกหรอสูง (ใช้ต่ำกว่า 500°C)